10 ข้อควรรู้ ก่อนฟอกสีฟัน อ่านก่อนตัดสินใจฟอกสีฟัน
1. เมื่ออายุมากขึ้น สีฟันจะเข้มขึ้น
เนื่องจากเคลือบฟันบางลง หรือคราบสีจากอาหาร เครื่องดื่ม เช่น ชากาแฟ หรือจากการสูบบุหรี่
2. การฟอกสีฟัน ไม่ได้ทำให้ฟันบางลง น้ำยาฟอกสีฟันจะทำปฏิกริยากับเม็ดสีในตัวฟัน แต่ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อฟัน ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างถูกต้อง
3. การฟอกสีฟัน ไม่ได้ทำให้ฟันขาวได้ถาวรตลอดไป ฟันจะขาวขึ้นหลังฟอกสีฟัน อาจอยู่ได้นานหลายเดือน หรือหลายปี แล้วแต่การรับประทานอาหารและการดูแล แต่ต้องมีการฟอกสีฟันซ้ำเป็นระยะ
4.การฟอกสีฟัน สามารถฟอกได้เฉพาะฟันจริง ในส่วนวัสดุอุด หรือครอบฟัน ไม่สามารถฟอกให้ขาวขึ้นได้ ถ้าต้องการฟอกสีฟัน แนะนำให้ฟอกก่อนการอุดฟัน หรือครอบฟัน ถ้าทำไปแล้ว อาจต้องมีการเปลี่ยนวัสดุอุดหรือเปลี่ยนสีครอบฟันภายหลัง
5.การฟอกสีฟัน มีหลายแบบทั้งที่ทำโดยทันตแพทย์ และทำเองที่บ้าน ส่วนประกอบหลักคือ hydrogen peroxide แต่จะมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป
6.การฟอกสีฟัน ที่เห็นผลรวดเร็วที่สุดคือการฟอกที่คลินิกโดยทันตแพทย์ทส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ฟันขาวคงทน แนะนำให้ทำการฟอกที่บ้านร่วมด้วย
7.คนที่ทานชากาแฟทุกวัน สามารถฟอกสีฟันได้ แต่ควรงดชากาแฟหลังฟอกที่คลินิกเป็นเวลา 48 ชม. หรืองดในช่วงที่ฟอกเองที่บ้าน ถ้าจำเป็นต้องทาน แนะนำทานน้ำตามมากๆ บ้วนปากหรือแปรงฟันทันที เพื่อให้คราบสีเจือจางลง จะช่วยให้ฟันขาวยาวนานขึ้น
8.ไม่แนะนำให้ฟอกสีฟันในคนท้อง ให้นมบุตร เป็นโรคเหงือกรุนแรง คนที่เสียวฟันง่าย และเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
9.อาการเสียวฟัน เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดหลังฟอกสีฟัน จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรก ระดับความรุนแรงของอาการเสียวฟันจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สามารถบรรเทาด้วยการทานยาแก้ปวด ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ “ฟลูออไรด์” เช่น ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน น้ำยาบ้วนปากเป็นต้น
10.ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟันทุกครั้ง ก่อนทำการฟอกสีฟัน เพราะคราบสีบางชนิดไม่สามารถขาวขึ้นได้ด้วยการฟอกสีฟัน ต้องขูดหินปูน ขัดฟันก่อนเริ่มฟอกสีฟัน
บทความโดย ทพญ.นลพรรณ วุฒิวณิช และ ทพญ.ฤดีรัตน์ กัลยาณภาคย์